ชำแหละธุรกิจแหล่งฟอกเงินเครือข่าย “สารวัตรซัว” – “นายพล จ.” ยกหูเคลียร์ “ชูวิทย์” | TOP HIGHLIGHT



ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก หัวข้อ “อุดมการณ์ VS อุดมเงิน” โดยกล่าวถึงการทำหน้าที่ของตำรวจและอัยการ ว่า หมู่นี้ชีวิตวนเวียนอยู่กับกระบวนการยุติธรรม แรงเงินผลักดันทำให้คนในกระบวนการยุติธรรมไขว้เขว เห็นผิดเป็นชอบมานานสักพักแล้ว ระยะหลังๆ หนักมากเรื่อง “หิวเงิน” แต่ภายใต้ “อุดมเงิน” ยังมีแรง “อุดมการณ์” ของคนในกระบวนการยุติธรรมต้านอยู่

เมื่อผมพูดถึง “ไอ้ซัว” (ตำรวจให้ออกจากราชการแล้ว) จริงๆ มันคือสารวัตรเก๊ ที่อาศัยคราบของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทำให้แปดเปื้อน คนพรรค์นี้ไม่ควรเอาไว้สวรรค์มีตา เทวดาไม่ตกสำรวจ โดน “ผบ.ตร.เด่น” ฟันฉับให้ออกทันที ดูมาดนิ่มๆ แต่แรงถึงใจ เหตุมาจากอุดมเงินของซัวใหญ่เกิน และไม่มีใครขุดคุ้ยของเหม็นเน่า แต่ดันมาเดินชนคนชอบเสือกอย่างผม

เป็นระยะเวลานานพอควรที่ซัวมันเสพสุข จัดตั้งองค์กรอาชญากรรมอย่างเป็นขั้นเป็นตอน มีทั้ง มูลนิธิเป็นต่อ ทำเป็นสร้างภาพช่วยเหลือเด็กยากจน สหกรณ์เป็นต่อ บริษัทรับแลกเงินตราต่างประเทศ บริษัทซอร์ฟแวร์เพื่อพัฒนาเว็บพนัน มีถึงเครื่องบินเจ็ทจอดอยู่ที่สมุทรสาคร วัตถุประสงค์ล้วนเอาไว้ “ฟอกเงิน”

ปัญหาของพวกทำพนันออนไลน์เหมือนกันหมดคือ ไม่รู้จะเอาเงินไปฟอกที่ไหน ลองเปรียบเทียบกับตำรวจอาชีพจริงๆ เป็นตำรวจสุจริต กินเงินเดือนพันตำรวจโทอย่างเก่งก็ 30,000 กว่าบาท ไหนจะผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ลูกเมีย ถึงได้เป็นหนี้สหกรณ์ตำรวจกันทุกคน ผ่อนกันยันตาย หากวันไหนใจไม่แข็งพอ อุดมการณ์หมด อุดมเงินมาแทนทันที

ไอ้ซัวเป็นใครมาจากไหน สอบเส้นทางการเงินได้ว่าทำมาหากินอะไร ตระกูลบ้านทำธุรกิจใหญ่โตแค่ไหน ถึงมีเงินได้ขนาดนี้ ของอย่างนี้มันโกหกกันไม่ได้ ไม่ว่าจะฟอกมาเก่งขนาดไหน แต่ทุกอาชญากรรมย่อมทิ้งร่องรอยไว้เสมอ เชื่อผมเถอะ ว่ายังไงก็เจอ สูงสุดจะกลับสู่สามัญ ไม่ว่า ไอ้โป้ นอท ซัว เมื่อเป็นทองเก๊ก็ต้องเก๊วันยันค่ำ ต้องยอมรับความจริงว่า ความซวยได้มาเยือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นอกจากไอ้ซัวจะโดนไล่ออก ลำดับถัดไปจะเป็นรายการตามล้างตามเช็ดจากบิ๊กก้อง เพราะ ผบ.ตร. สั่งให้จัดการสอบองค์กรของไอ้ซัวเพราะมันใหญ่เกินไปคนที่เป็นโจรนั้น ถ้ามันเป็นโจรกระจอกก็ไม่มีใครสนใจมันเท่าไหร่ แต่วันใดวันหนึ่งที่มันขึ้นเป็น “มหาโจร” ทุกกระบวนการยุติธรรมก็ต้องรุมจ้อง ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ สังคมจะวิบัติ หากตำรวจเป็นโจรเสียเอง ถึงขนาดอาศัยเครื่องแบบหากิน แล้วเป็นนายบ่อนด้วย จัดตั้งองค์กรที่มีระบบทันสมัย ถือเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม

วันนี้ผมยังได้มีโอกาสพบกับอัยการสุภาพสตรีท่านหนึ่ง ขอไม่เอ่ยนาม แต่มีความเจ็บช้ำน้ำใจที่ถูกอัยการด้วยกันเล่นตลก ทำคดีค้ามนุษย์สั่งฟ้อง แต่ถูกมัดมือชกพลิกคำสั่งคดีจน “กำพล วิคตอเรีย” จวนจะหลุดรอมร่อ เอาลูกเมียหลุดออกมาก่อน สั่งไม่ฟ้อง ถอนหมายจับ กลับไทยและยังจะกล้ากลับมาทำการ “ค้ามนุษย์” เปิดซ่องถูกกฎหมายอาชีพดั้งเดิม อุดมเงินลามไปที่กระบวนการยุติธรรมกลางน้ำแล้วครับ

หาก “อุดมการณ์” ต้าน “อุดมเงิน” ไม่ไหวกระบวนการยุติธรรมต้องถึงกาลวิบัติ บ้านเมืองเข้าสู่กลียุคช่วยผมพูดความจริงให้สังคมได้ยินดังๆ ครับ เพราะพวกอุดมเงินกลัวเสียงดังของอุดมการณ์ พวกอุดมเงินมันหน้าด้าน ต้องช่วยกันตะโกนดังๆ ว่า “หากพวกมึงทุจริตคอรัปชั่น พวกกูจะตามเห่าตามหอนไม่หยุดทั้งชาตินี้และชาติหน้า

ทีมข่าวท็อปนิวส์ ลงพื้นที่สำรวจ อาคารสำนักงาน ในเครือเป็นต่อ กรุ๊ป ของ “สารวัตรซัว” ย่านรวมอินทรา ตามพิกัดที่ชูวิทย์ระบุ พบอาคารสำนักงาน 2 อาคารในรั้วเดียวกัน ระบุเป็นพื้นที่ทำการของ 12 บริษัท ขณะที่ “ลาลิซ่า” อาบอบนวด ยังคงต่อเติมตกแต่งแต่ไม่การเปิดให้บริการ
กรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ออกมาเปิดเผยข้อมูล เกี่ยวเครือข่ายธุรกิจ ของ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” สารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการสังกัดกองโยธาธิการสำนักส่งกำลังบำรุง ซึ่งมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง กับเว็บพนันออนไลน์ มาเก๊า 888 โดยกล่าวอ้างว่า เป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ใหญ่ที่สุดในประเทศ พอๆ กับ “เอ็ดดี้” ทำให้องค์กรตำรวจเสียหายด้วยการ จัดตั้งองค์กรอาชญากรรมในรูปแบบการทำธุรกิจผ่าน 11 บริษัท ในเครือเป็นต่อกรุ๊ป พร้อมเรียกร้อง ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเร่งตรวจสอบ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ล่าสุด วันนี้ ( 11 ก.พ.) ทีมข่าว Top News ได้ลงพื้นที่สำรวจบริษัท ของ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล ซึ่งตั้งอยู่ภายใน รามอินทราซอย 5 แยก 15 เขตบางเขน ตามพิกัดที่นายชูวิทย์ระบุไว้ จากการสำรวจพบว่า เป็นที่ตั้งของอาคารสำนักงาน 2 อาคาร สูง 6 ชั้น และ 3 ชั้น อยู่ภายในรั้วบริษัท มีป้ายชื่อบริษัทถึง 12 บริษัท มีลานจอดรถ ภายในซอย ถึง 4 แห่ง โดยชาวบ้านทราบว่า บริษัทดังกล่าวกำลังจะสร้างอาคารใหม่อีก 1 อาคาร อยู่บริเวณ ท้ายซอย แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดจึงไม่ปิดทำการ และไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

ต่อมาทีมข่าว ท็อปนิวส์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ สถานอาบอบนวดลาลิซ่า ภายในซอยรัชดาภิเษก 17 แขวงและเขตดินแดง ซึ่งนายชูวิทย์ว่า “สารวัตรซัว” ซื้อกิจการต่อมาจากนายกำพล วิคตอเรีย ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ซึ่งจากการตรวจสอบทีมข่าวพบว่า หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สุทธิสาร และ บกน.2 บุกตรวจค้น ถึง 2 ครั้งพร้อม แจ้งดำเนินคดีกับผู้ดูแล ในข้อหาลักลอบเปิดให้บริการโดยไม่ได้รับอนุญาต

#ชูวิทย์ #สารวัตซัว #นายพลจ

————————————————————————–

YOUTUBE : https://bit.ly/YoutbTopTV
FACEBOOK : https://bit.ly/FBTOPTV
LINE : bit.ly/LINExTOPTV
IG : https://bit.ly/3B3Ktsj
TWITTER : https://bit.ly/TWTOPTV
.
.
WEBSITE : https://www.topnews.co.th
APP TOP NEWS : http://onelink.to/c68pbd
.
.
ติดตามเราได้จากช่อง กล่อง PSI, INFOSAT, GMMZ, CSAT, TIK , 3BB, TOT
ช่อง 77 : กล่อง PSI, INFOSAT, GMMZ, CSAT, TIK , 3BB, TOT
ช่อง 658 : กล่อง AIS
ช่อง 210 : IPM
.
.
ติดต่อโฆษณา
[email protected]